"บ้านทาวน์เฮ้าส์ ในทางฮวงจุ้ยถือเป็นลักษณะบ้านที่ไม่เหมาะที่จะอยู่อาศัย"
ฟัง แค่นี้ อย่าเพิ่งตกอกตกใจไปเสียก่อนล่ะครับ เหตุผลที่พูดเช่นนั้นก็เพราะ บ้านทาวน์เฮ้าส์ มีลักษณะที่ไม่ต่างไปจากตึกแถวหรืออาคารพาณิชย์มากนัก เป็นลักษณะห้องติดกันเป็นล็อคๆ ในทางฮวงจุ้ยถือว่าเป็นบ้านไม่สมประกอบ เพราะไม่มีหน้าต่างด้านข้าง นั่นเอง
บ้านที่ไม่มีหน้าต่าง ก็จะก่อสภาพอุดตันได้ง่าย ก็อย่างที่ผมเน้นย้ำกันอยู่เสมอว่า หลักฮวงจุ้ยจะเน้นเรื่องความสมดุล (หยิน-หยาง) เป็นเรื่องใหญ่ บ้านทาวน์เฮ้าส์จึงถูกมองว่า เป็นบ้านที่ไม่ถูกฮวงจุ้ย เพราะการหมุนเวียนของอากาศภายในบ้านจะสู้บ้านเดี่ยวที่มีหน้าต่างรอบบ้านไม่ ได้
เรื่องลม ในทางฮวงจุ้ยถือว่าสำคัญมาก บ้านไหนถ้าขาดลม หรือไม่มีลมพัดเข้าบ้าน บ้านนั้นก็ขาดโชคลาภ สุขภาพของคนในบ้านก็ไม่ดี เพราะฉะนั้น บ้านทาวน์เฮ้าส์ที่มีกำแพงตันถึง 2 ด้าน โอกาสที่บ้านจะขาดลมก็มีมาก การเลือกซื้อบ้านทาวน์เฮ้าส์ จึงต้องเน้นเรื่องของทิศทางลมเป็นสำคัญ
ทิศเหนือ-ใต้ เป็นทิศที่เหมาะกับบ้านทาวน์เฮ้าส์มากที่สุด เพราะเป็นทิศทางลมโดยตรง ถ้าบ้านทาวน์เฮ้าส์อยู่ในแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งเป็นทิศของแดด นอกจากจะอับลมแล้ว แถมยังร้อนอีกต่างหาก ใครที่กำลังคิดจะซื้อบ้านทาวน์เฮ้าส์อยู่ตอนนี้ อย่าลืมดูทิศกันด้วยล่ะ เอาบ้านที่อยู่ทางทิศลมไว้ก่อน
โดยเฉพาะบ้านที่หันหน้าทางทิศ ใต้ น่าจะดีที่สุด เพราะลมจะมาทางทิศใต้เป็นส่วนใหญ่ประมาณ 9 เดือน ที่เหลือลมจะมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (ฤดูหนาว) ลมเข้าหน้าบ้านดีกว่าเข้าหลังบ้าน เพราะหลังบ้านส่วนใหญ่จะมีบ้านหลังอื่นบังลมเอาไว้ ยกเว้นว่าหลังบ้านโล่ง อาจเลือกบ้านหันหน้าทิศเหนือ หลังบ้านเป็นทิศใต้ได้
อย่าลืมว่า บ้านทาวน์เฮ้าส์ มีจุดที่ลมพัดเข้าบ้านได้เพียง 2 จุดเท่านั้นคือ หน้าบ้านกับหลังบ้าน ข้างบ้านหมดสิทธิ์ (ยกเว้นทาวน์เฮ้าส์หลังมุม) เมื่อเรารู้ว่าทางลมมาทางด้านไหน ก็อย่าเอาอะไรไปบังทางลมเด็ดขาด นี่เป็นข้อห้ามที่หลักฮวงจุ้ยให้ความสำคัญมากที่สุด
"ทาวน์เฮ้าส์กว่า 80 เปอร์เซนต์มีการต่อเติมด้านหลัง"
จาก ผลสำรวจของผมเองที่ไปดูบ้านทาวน์เฮ้าส์มาเยอะมาก เหตุผลก็เพราะ ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น และนิยมต่อเติมแบบเต็มพื้นที่ประเภทติดรั้วด้านหลัง ทำเป็นห้องครัวกันเป็นส่วนใหญ่ การทำในลักษณะนี้ ถือว่าเป็นการฝืนกฎเกณฑ์ในทางฮวงจุ้ยอย่างมาก เพราะเท่ากับปิดทางลมของบ้าน เหลือทางลมเพียงด้านหน้าบ้านอย่างเดียว ธรรมชาติของลมจะต้องมีทางเข้าและทางออก ถ้าเข้าอย่างเดียวไม่มีจุดดูดลมออก ลมก็ไม่สามารถหมุนเวียนเข้าไปข้างในบ้านได้ พัดผ่านเฉพาะหน้าบ้านเท่านั้น นี่เป็นสิ่งที่หลายคนยังไม่เข้าใจ การต่อเติมด้านหลังจนทึบ จะก่อสภาพอุดตันขึ้นภายในบ้านทันที
|
ทาวน์เฮ้าส์ ที่หลังบ้านปล่อยโล่ง จะมีการหมุนเวียนของลมภายในบ้านได้ดีกว่า ทาวน์เฮฺ้าส์ที่มีการต่อเติมด้านหลังบ้านจนเต็มพื้นที่ ลมไม่สามารถหมุนเวียนเข้าไปภายในบ้านได้ |
การ ต่อเติมด้านหลังที่ถูกต้องจึงไม่ควรต่อเต็มพื้นที่ อาจเว้นที่โล่งไว้บางส่วน เพื่อให้มีช่องลม หรือไม่ก็ต่อเติมแบบใช้เพียงหลังคากั้นสาด คือ ต่อเติมแบบโปร่ง ไม่มีผนังปูนก่อเป็นกำแพงทึบ ก็จะถือว่าถูกต้อง บ้านไม่เสียช่องลมไป การหมุนเวียนของอากาศภายในบ้านก็จะอยู่ในสภาพที่สมดุล
"ถ้าเกิดมีการต่อเติมไปแล้วจะแก้ไขอย่างไร..?"
วิธี แก้ก็คือ เจาะช่องดูดอากาศ หรือทำหลังคาแบบเปิด-ปิดได้ เพื่อให้มีการระบายอากาศได้ดี ยิ่งถ้าทำเป็นห้องครัวด้วยแล้ว ทั้งกลิ่นทั้งควันจะอบอวนอยู่ในบ้าน การเจาะช่องลมถือว่าสำคัญมาก จำเป็นจะต้องทำเลยทีเดียว
นอกจากด้านหลังบ้านที่กลัวอุดตันแล้ว ด้านหน้าบ้านเองก็ต้องระวังเช่นเดียวกัน การต่อหลังคาทำเป็นโรงรถด้านหน้า ก็เป็นที่นิยมทำกันมาก เพราะหลีกเลี่ยงยากที่จะไม่ทำสำหรับคนที่มีรถทั้งหลาย การทำโรงรถจึงถือเป็นอุปสรรคสำคัญที่จะปิดกั้นลมได้ ถ้ามีความจำเป็นจริงๆที่จะต้องทำ ผมแนะนำให้ทำหลังคาโรงรถให้สูงกว่าปกติหน่อย อย่าทำหลังคาที่กดต่ำ เพราะจะเป็นตัวบังลมอย่างดี
|
หลังคาโรงรถที่กดต่ำจะสกัดกั้นลมไม่ให้ไหลเข้าบ้านได้ ควรทำหลังคาให้สูงเพื่อเปิดทางลมเข้าบ้าน |
เริ่ม จะมองเห็นถึงผลเสียของการอยู่บ้านทาวน์เฮ้าส์แล้วสิครับ นี่แค่เรื่องลมเรื่องเดียวนะครับ ผมยังไม่ได้พูดถึงประเด็นอื่นๆที่มีผลกระทบต่อคนที่อยู่บ้านทาวน์เฮ้าส์ เช่น ห้องส้วม ที่เป็นปัญหามาก ชนิดที่แก้กันไม่ตก การจัดและวางข้าวของภายในบ้าน ที่ทำค่อนข้างจะยาก คงต้องเอาไว้อ่านต่อกันตอนหน้าครับ?
No comments:
Post a Comment